วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

โทรศัพท์มือถือ วิเคราะห์ผิวได้ 

คงสงสัยใช่ไหมค่ะว่า ภาพถ่าย สามารถบอกอาการ วินิจฉัยโรคได้อย่างไร ?


โดยทั่วไปแล้ว หลักการตรวจ วินิจฉัยโรค ผิวหนัง ก็เหมือนกับการตรวจ วินิจฉัย โรค โดยทั่วไป ประกอบด้วย

1. การซักประวัติ 
            
2. การตรวจร่างกาย หรือ การตรวจดูรอยโรคด้วยสายตา 

3. การตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือ การตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ


โรคผิวหนัง บางโรค อาจมีผื่นที่มีลักษณะเฉพาะ หรือ มีตำแหน่งเฉพาะซึ่งช่วยให้ แพทย์ผิวหนัง สามารถวินิจฉัยโรคได้โดยง่าย

การตรวจดูรอยโรคด้วยสายตา เป็นขั้นตอนหนึ่งในการ วินิจฉัยโรค เมื่อเราไปพบ แพทย์ ที่ คลินิก หรือ โรงพยาบาล  แพทย์ จะใช้โคมไฟ แว่นขยายตรวจดูรอยโรค เพื่อขยายให้เห็นรอยโรคชัดเจน

ดังนั้นภาพถ่ายที่คมชัดของรอยโรคที่ปรากฏบนผิวและข้อมูลเกี่ยวกับอาการของโรค จะสามารถบอกการวินิจฉัยโรคในเบื้องต้นได้ค่ะ

 สำหรับผู้ที่มีปัญหา ผิวพรรณ หรือ โรค ผิวหนัง หากยังไม่สามารถเข้าตรวจรักษากับแพทย์ที่ คลินิก หรือ โรงพยาบาลได้ สามารถบอกเล่าอาการ และส่งภาพถ่ายบริเวณที่มี ปัญหาผิว เข้ามาปรึกษาเราได้นะค่ะ แพทย์ที่ปรึกษา พญ.อรอุมา โอภาส




ปรึกษาสอบถาม ปัญหาผิว กับ "คุณหมออรไลน์"

 ปรึกษาสอบถาม คลิ๊กๆ


อ่านต่อ www.DERMINET.com

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

“ สิว จะรักษาหายขาดได้หรือไม่ “

 “ สิว จะรักษาหายขาดได้หรือไม่ “



    สิว เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุดก็ว่าได้  ไม่ว่าจะเป็นเด็กวัยรุ่น หรือ ผู้ใหญ่วัยทำงานก็มีโอกาสเป็นสิวได้ค่ะ หลายคนจะเข้าใจว่า โตแล้ว ไม่ใช่วัยรุ่น แล้ว ไม่น่าจะเป็น สิว นั่นเพราะว่า สิว ไม่ได้มีสาเหตุมาจากฮอร์โมนเพศที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงวัยรุ่นเท่านั้นค่ะ แต่ สิว ยังมีสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ อีกมากมาย เช่น กรรมพันธุ์ , แสงแดด , สภาพอากาศร้อน , การแพ้ หรือ ระคายเคืองจากสารเคมี หรือ เครื่องสำอางต่างๆ รวมทั้งภาวะความเครียดทางร่างกายและจิตใจด้วยนะคะ  ความวิตกกังวล กินไม่ได้ นอนไม่หลับ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ  นอกจากนี้ ในผู้หญิงเรา ก็จะสังเกตได้ว่า ช่วงระยะก่อนมีรอบเดือน มักจะมี สิว ขึ้นมากกว่าช่วงปกติด้วย  ทั้งนี้ก็เพราะว่ามีการแปรเปลี่ยนของฮอร์โมนในร่างกายค่ะ บ้างก็เป็นช่วงก่อน ระหว่าง และ หลังรอบเดือนได้
พูดถึงตรงนี้แล้วก็คงจะมีคำถามว่า  “ สิว จะรักษาหายขาดได้หรือไม่ “

 คำตอบก็ คือ สิว จะรักษาหายขาดหรือไม่ ต้องมองดูที่สาเหตุและปัจจัยกระตุ้นของแต่ละคนค่ะ หากหลีกเลี่ยงสาเหตุต่างๆ เหล่านี้ได้ ก็จะควบคุม สิว ได้ค่ะ  ที่นี่เราจะเห็นได้ว่า หลายๆปัจจัย เราหลีกเลี่ยงกันได้ยากใช่มั๊ยคะ อย่างในผู้ที่มีผิวมัน หรือ ผิวผสม นั้น จะพบว่า จะมีปัญหาสิวขึ้นง่าย เป็นสิวบ่อยๆ  สิว ก็จะไม่หายขาดค่ะ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ สิว ก็จะไม่ขึ้นมากค่ะ การหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น สิว เหล่านี้ เป็นสิ่งจำเป็นมากเลยนะคะ เทียบเท่ากับ การรักษาสิว ด้วยวิธีต่างๆ เลยก็ว่าได้ เพราะถ้าไม่หลีกเลี่ยง ถึงแม้ รักษาสิว ไป ไม่ว่าจะทายา รับประทานยา หรือ จะไปทำเลเซอร์สิว มา ก็กลับมาเป็นอีกค่ะ    
มาดูกันดีกว่าค่ะ ว่า  การรักษาสิว เขาใช้วิธีการใดบ้าง “


วิธีแรกค่ะ คือ การทายารักษาสิว ถือว่าเป็นวิธีพื้นฐานเลยค่ะ สำหรับ การรักษาสิว  โดยยาทาที่คุณหมอ มักจะให้ใช้จะแบ่งเป็น

1. Benzoyl peroxide 
ยาทาตัวนี้ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคที่พบในรูขุมขน และ ต่อมไขมัน ค่ะ อาจระคายเคืองผิว ทำให้ผิวแห้ง แสบ แดง และ ลอกได้ค่ะ

 2. Tretinoin
ยาทาตัวนี้ มีฤทธิ์ละลายหัว สิวอุดตัน (comedone) ได้ดี ทำให้หัวสิวอุดตันหลวม และ หลุดออก และ สามารถป้องกันการเกิดสิวอุดตันใหม่ด้วยค่ะ
ยาอาจทำให้หน้าแดง แสบ และ ลอกได้เช่นกันค่ะ  เมื่อใช้ยานี้ ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ทาครีมกันแดดเป็นประจำค่ะ และ หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ ในขณะตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตร

 3. ยาปฏิชีวนะ หรือ ยาฆ่าเชื้อ ชนิดทา
ยาทาตัวนี้ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคค่ะ ใช้ทาแต้มเฉพาะสิวอักเสบ บางคนทาแล้วจะรู้สึกแสบๆ ได้บ้างค่ะ


ทั้งหมดนี้ เป็น ยาทารักษาสิว ที่ใช้กันบ่อยๆนะคะ จะเห็นว่า ส่วนใหญ่ ยาทารักษาสิว เหล่านี้ มีผลข้างเคียงอยู่บ้าง นั่นคือ ทำให้ผิวแสบแดง และ แห้งลอกได้ จึงควรใช้โดยอยู่ในการควบคุม ดูแลของแพทย์ค่ะ สำหรับคนที่ผิวค่อนข้างจะบอบบางแพ้ง่าย หรือ ผิวระคายเคืองง่าย อาจไม่สามารถใช้ยาทารักษาสิวบางตัวได้ค่ะ


ปรึกษาสอบถาม ปัญหาผิว กับ "คุณหมออรไลน์"

ปรึกษาสอบถามปัญหาผิว คลิ๊กๆ


อ่านต่อ

DERMINET blog

ครีมทาสิว เดอร์มิเน็ท ต่างกับที่อื่นอย่างไร ?

ผลิตภัณฑ์ เดอร์มิเนต Derminet Acne Care แตกต่างจาก ยาทารักษาสิว อย่างไร


ผลิตภัณฑ์เดอร์มิเนต ชุดรักษาสิว  เป็นเวชสำอาง มีสมบัติระหว่างยาและเครื่องสำอางค่ะ คือ เป็นเครื่องสำอางที่ออกฤทธิ์หรือมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเซลล์ผิวหนัง  ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดยคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ชุดนี้ จะช่วยลด และ ป้องกันการอุดตันของรูขุมขน ช่วยลดสิวอุดตันและ มีคุณสมบัติในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดการอักเสบ ระคายเคืองผิว ทำให้สิวอักเสบยุบลง โดยไม่มีผลข้างเคียงเรื่องผิวแสบ แดง หรือ ลอกเหมือนฤทธิ์ของยาทารักษาสิวค่ะ ทั้งนี้ ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวค่ะ เช่น

Derminet Pore Reduce & Anti-Acne Treatment Mask ตัวนี้จะช่วยลดความมัน ลดการอุดตันของรูขุมขน สามารถใช้แทนยาทาก่อนล้างหน้า Benzoyl Peroxide ได้ โดยไม่จำเป็นต้องทาทุกวันค่ะ ใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง แต่หากผิวมันมาก ก็สามารถทาทุกวันได้นะคะ วันละ ครั้ง ไม่ทำให้แสบ แดงมาก อย่างยาทา  Benzoyl Peroxide ค่ะ

Derminet Anti-Acne Toning Lotion โลชั่นเช็ดหน้า ที่ช่วยลด และ ป้องกันการอุดตันรูขุมขน ทำให้หัวสิวอุดตัน หลุดออกได้ง่ายขึ้น และ ยังช่วยลดความมัน กระชับรูขุมขนด้วยค่ะ

Derminet Anti-Acne Cream ครีมทาแต้มสิวอักเสบ ใช้แทนยาฆ่าเชื้อ เพื่อช่วยให้สิวอักเสบยุบลงค่ะ

Derminet Anti-Acne Scar Cream ครีมทาแต้มรอยสิว มีคุณสมบัติทั้งเร่งการผลัดผิว และ ยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว ช่วยให้รอยสิว จางเร็วขึ้นค่ะ

สำหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่อยู่ในชุดนี้ ได้แก่  Derminet Anti-Acne Foam , Derminet Anti-Acne Washing Gel Derminet Mattifying Refresh Serum , Derminet Mattifying Oil Control Gel ค่ะ ซึ่งผลิตภัณฑ์ทุกตัวนี้ เมื่อใช้ร่วมกัน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุม และ ป้องกันการเกิด สิว ได้ดีขึ้นค่ะ แต่ควรจะเลือกใช้ตัวใดบ้างนั้น ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญของเราได้ค่ะ



ปรึกษาสอบถาม ปัญหาผิว กับ "คุณหมออรไลน์"

 ปรึกษาสอบถาม คลิ๊กๆ



DERMINET blog