วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

อย ! เตือนขาย เครื่องสำอาง ?

"อย.ขอเตือน ว่าการ ขายเครื่องสำอาง ที่ไม่มี ฉลากภาษาไทย ...

เรียน ท่านผู้ระกอบการ

อย.ตรวจพบ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่จำหน่ายในท้องตลาดจำนวนมาก ไม่มี ฉลากภาษาไทย หรือมีการแสดงฉลากไม่ถูกต้องครบถ้วน ตามที่กำหมายกำหนด ดังนั้นเพื่อการปฏิบัติให้ถูกต้อง ตามกฏหมาย และเพื่อประโยชน์ต่อ ผู้บริโภค อย.ขอแจ้งให้ทราบว่า เครื่องสำอางค์ ทุกชนิด ทุกประเภท จะต้องมีฉลากภาษาไทย โดยต้องระบุข้อความ ดังนี้


1. ชื่อเครื่องสำอาง และชื่อทางการค้า

2. ประเภทหรือชนิดของเครื่องสำอาง

3. ชื่อสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสม

4. วิธีใช้

5. คำเตือน(ถ้ามี)

6. ชื่อที่ตั้งผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า

7. ปริมาณสุทธิ

8. เดือน ปีที่ผลิต

9. เลขที่แสดงครั้งที่ผลิต

10. เดือนปีที่ผลิต

11. เดือนปีที่หมดอายุ(กรณีเครื่องสำอางที่มีอายุใช้น้อยกว่า 30 เดือน)

กรณีภาชนะบรรจุ เครื่องสำอาง มีขนาดเล็ก มีพื้นที่แสดง ฉลากน้อยกว่า 20 ตารางเซนติเมตร กฎหมายอนุญาต ให้แสดงข้อความเฉพาะ ชื่อเครื่อสำอาง และชื่อทางการค้า เลขที่ครั้งที่ผลิตไว้บนฉลาก ส่วนข้อความอื่นให้แสดงไว้ในใบแทรก หรือเอกสาร หรือคู่มือที่ใช้ประกอบเครื่องสำอางนั้น

อย.ขอเตือนว่าการ ขายเครื่องสำอาง ที่ไม่มี ฉลากภาษาไทย หรือมี ฉลากภาษาไทย ไม่ถูกต้อง ต้องระวังโทษ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีเป็นการกระทำโดยประมาท ผู้กระทำต้องระวังโทษปรับไม่เกิด 10,000




ที่มาที่ไป :  ชมรมคุ้มครองผู้บริโภค เครื่องสำอางค์ และอาหารเสริม

 คลิกๆ คำถามจากทางบ้าน :   ผลิตภัณฑ์ DERMINET ได้รับการรับรองจาก อย.หรือไม่ ?

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

ติดตามไอเดียธุรกิจความงามผ่าน  Facebook
https://www.facebook.com/DrCosmeticsBlog

สอบถาม เปิดคลินิกความงาม คลิ๊กๆ  LINE@

ประวัติและผลงานที่ผ่านมา คลิ๊กๆ  2547-2559
โทร : 089-944-1346 ( 9:00-21:00 ทุกวัน )

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

DERMINET blog

วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

DERMINET สาขา จ.เพชรบุรี

SMEs ตีแตก !


แกะกล่อง ศูนย์ความงาม DERMINET วันนี้ เปิดแล้วสาขาใหม่ที่ จังหวัดเพชรบุรี ได้ ฤกษ์ดี วันที่ 19 กันยายน 2553 เป็นวันฉลองทำบุญเปิดร้านใหม่ โดยมีคณะ ศูนย์ความงาม DERMINET ร่วมเปิดงานครั้งนี้

เก็บภาพบรรยากาศบางส่วน มาฝากสมาชิกทุกท่านให้ได้ชมกันค่ะ ก่อนอื่นก็ขอแนะนำ ผู้จัดการและเจ้าของร้านศูนย์ความงาน คุณสายไหม นาคฤทธิ์ ด้วยประสบการณ์การทำงานในคลีนิกความงาม พร้อมทั้งความรู้จากการทำงาน ร่วมถึงใจที่รักในงานนี้ จึงได้ร่วมงานกับทาง DERMINET CENTER จัดตั้งศูนย์ความงาม DERMINET สาขาเพชรบุรี เพื่อให้บริการให้คำปรึกษา และ ดูแลปัญหาผิว ในราคาที่ไม่แพงและเป็นกันเอง

บรรยากาศการตกแต่งร้าน เป็นร้านเล็กๆ ที่ตกแต่งเน้นสีที่มองแล้วสบายตาให้บรรยากาศที่เย็นสบาย เพื่อความผ่อนคลายของผู้ที่มาใช้บริการ การบริการเน้นการตรวจสภาพผิวก่อนแนะนำผลิตภัณฑ์ หรือ ทำทรีทเม้นต์ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้ทราบถึงปัญหาผิวและวิธีการรักษาที่ถูกต้อง

หลังการฉลองทำบุญเปิดรานใหม่ ก็มีผู้ที่สนใจมารับบริการกันอยู่หลายคนสร้างกำลังใจให้กับเจ้าของศูนย์ความงามและคณะของ DERMINET CENTER เป็นอย่างมากเลยค่ะ

ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจใน ผลิตภัณฑ์ DERMINET สมาชิกในจังหวัดเพชรบุรี สามารถเข้ารับบริการได้แล้วนะคะ

ฉลองเปิด ศูนย์ความงาม DERMINET สาขาเพชรบุรี

สัมภาษณ์หญิงเก่ง ของเรากันค่ะ ?

สวัสดีค่ะ ท่านผุ้ประกอบการ หรือผุ้ที่กำลังมองหาธุรกิจ ด้านความงาม ต้องขอบพระคุณ คุณหมอ และเจ้าหน้าที่ทุกๆ ท่านมากๆค่ะ ไม่เคยทำธุกิจเลย แต่เคยทำงาน คลินิก ความงาม มาก่อน ในใจก็คิดว่าการจะเปิดแบบนี้ได้ต้องเรียน จบหมอ เท่านั้น 

จนกระทั่งได้รู้จักทีมงาน DERMINET  ที่เป็นพี่เลี้ยง ในการเริ่มทำธุรกิจ จึงอยากแบ่งปันผู้ประกอบการ ที่ยังเริ่มต้นไม่ถูก ในการเตรียมความพร้อม ก่อนเริ่มทำ ธุรกิจความงาม

ภายใน 3 เดือนแรก ก่อนเปิดศูนย์ฯ ถามใจตัวเองให้ดีว่า ธุรกิจความงาม เป็นงานที่เรารัก และพร้อมจะร่วมงาน กับคุณหมอ ในการช่วยเหลือคนไข้ ที่มี ปัญหาผิว หากได้คำตอบแล้ว เรามาเริ่มลุยกันเลยมั๊ยค่ะ และนี่เป็นแนวทางง่ายๆ ที่ทีมงานให้มา : 5W - 1H


1.W – Who – ใครคือลูกค้าคุณ ?

ใครคือกลุ่มเป้าหมาย ของคุณหมอ ? คุณควรจะระบุลักษณะของกลุ่มเป้าหมายของคุณได้เช่น เพศ, อายุ, อาชีพ, ฐานเงินเดือน, พื้นที่, พฤติกรรม ฯลฯเพราะข้อมูลเหล่านี้ จะช่วยทำให้คุณสามารถ ระบุกลุ่มเป้าหมาย คนไข้ของคุณให้เด่นชัด เพื่อที่คุณจะสามารถวางแผนการตลาด หรือสร้างสินค้าหรือบริการ ที่สามารถตอบสนองกับพฤติกรรม ของกลุ่มคนเหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง


2.W – What – อะไรคือสิ่งที่ คนไข้ต้องการ ?

คุณควรจะทราบว่าสินค้า หรือบริการรูปแบบไหน ที่ลูกค้าของคุณต้องการ และคุณก็ควรที่จะสามารถตอบสนองความต้องการ ของลูกค้าคุณได้ และอะไรที่จะสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า หรือบริการของคุณจากคู่แข่งคุณได้ ?


3.W – Where – คนไข้ คุณอยู่ที่ไหน ?

คุณจะสามารถหาคนไข้ ของคุณได้จากที่ไหนบ้าง ? และที่ไหนคือที่ๆ คนไข้ของคุณมักจะไปอยู่ และคุณสามารถสื่อสารกับคนไข้ ได้ด้วยวิธีอะไร ?


4.W – When – เมื่อไร คนไข้ ต้องการคุณ ?

คุณควรจะทราบถึงความต้องการของคนไข้ ของคุณว่าเค้าจะต้องการสินค้าหรือบริการของคุณเมื่อไร?ในช่วงเวลาไหน ? และต้องการบ่อยแค่ไหน ? ซึ่งจะช่วยทำให้คุณสามารถกำหนด และวางแผนการต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง


5.W – Why – ทำไมคนไข้ ต้องมาซื้อหรือใช้บริการของคุณ ?

ทำไมคนไข้ เลือกซื้อสินค้าหรือบริการของคุณแทน ที่จะซื้อจากคู่แข่ง ? ทำไมคุณต้องเข้ามาทำธุรกิจทางด้านนี้ หรือคลินิกประเภทนี้ ?


6.H –How – คุณจะเข้าถึงคนไข้ ของคุณได้อย่างไร ?

คุณจะสามารถเข้าถึงลูกค้าคุณได้ด้วยวิธีไหนอย่างไร ? ซึ่งคุณควรจะมีการวางแผนและกำหนดวิธีการที่คุณจะสามารถเข้าถึงคนไข้ ของคุณได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


ติดตามไอเดียธุรกิจความงามผ่าน  Facebook


สอบถาม เปิดคลินิกความงาม คลิ๊กๆ  LINE@

ประวัติและผลงานที่ผ่านมา คลิ๊กๆ  2547-2559
โทร : 089-944-1346 ( 9:00-21:00 ทุกวัน )

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

DERMINET  blog

วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

ร้านขายยา DERMINET

เมื่อเร็วๆนี้ ทางศูนย์ฯ ผลิตภัณฑ์ DERMINET ได้เดินทางไป อ.สัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อเข้าเยี่ยม ผู้ประกอบการ ร้านขายยา ร่วมยาฟาร์มาซี ที่มั่นใจลงผลิตภัณฑ์ ของทางศูนย์ฯ



ทางคุณหมอได้พูดคุยกับ ผู้ประกอบการ ถึงปัญหาของ คนไข้ ผู้ที่มาติดต่อซื้อ ผลิตภัณฑ์ DERMINET เวชสำอาง พร้อมสอบถามประวัติ การใช้ผลิตภัณฑ์ ของคนไข้ บางส่วน ซึ่งทำให้เข้าใจปัญหามากยิ่งขึ้น


จากการพูดคุย ปัญหาของคนไข่ ส่วนใหญ่ไม่มีการแพ้ ผลิตภัณฑ์ที่ขายดี ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ รักษาสิว และรอย ตามลำดับ มีคนไข้หลายคนที่มาเล่าให้ฟังว่า ผลิตภัณฑ์รักษาสิวของ DERMINET ใช้ดีจริงและเห็นผลเร็ว สร้างกำลังใจให้กับทีมงาน และเจ้าของ ร้านขายยา เป็นอย่างมาก


หลังจากพูดคุยกันเสร็จเรียบร้อย ทางผู้ประกอบการพร้อมคุณหมอ ก็ได้ร่วมกันจัดวางผลิตภัณฑ์ ใส่ตู้ยาพร้อมกับรอยยิ้ม และความปลื้มใจ ในความพึงพอใจ ในการใช้ผลิตภัณฑ์ของคนไข้



ศูนย์ผลิตภัณฑ์ DERMINET CENTER ขอขอบคุณ ท่านผู้ประกอบการ ร้านขายยา ศูนย์ความงาม และสมาชิก DERMINET ทั่วประเทศ เป็นอย่างสูงที่ให้ความไว้วางใจใน ผลิตภัณฑ์ที่แพทย์แนะนำ และให้โอกาส ในการขยายกิจการร้าน
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

ติดตามไอเดียธุรกิจความงามผ่าน  Facebook
https://www.facebook.com/DrCosmeticsBlog

สอบถาม เปิดคลินิกความงาม คลิ๊กๆ  LINE@

ประวัติและผลงานที่ผ่านมา คลิ๊กๆ  2547-2559
โทร : 089-944-1346 ( 9:00-21:00 ทุกวัน )

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

DERMINET blog

วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ตกแต่ง ศูนย์ความงาม อย่างไรดี ?

เคล็ดลับการตกแต่ง ศูนย์ความงาม ร้านความงาม และคลินิกความงาม


หลักทั่วไปของการ ออกแบบ ตกแต่ง ร้านความงาม หรือ คลินิกความงาม ศูนย์ความงาม ร้านขายยา ฯ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นประการแรก คือ ลักษณะของสินค้า หรือลักษณะของกลุ่มลูกค้า ก่อนการออกแบบตกแต่งร้านทุกครั้ง เราจะต้องการจะสื่อให้เขารู้ว่า ต้องการขายอะไร หรือ ธุรกิจของเราเป็นแบบใด อีกทั้งต้องรู้ด้วยว่า กลุ่มลูกค้า ของเราเป็นใคร เมื่อเรารู้ว่าขายอะไร และรู้ว่าลูกค้าของเราเป็นใคร เราจะสามารถออกแบบ ตกแต่งร้าน ให้เหมาะสมได้ กลุ่มลูกค้าแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆได้แก่


1. กลุ่มลูกค้าระดับบน

2. กลุ่มลูกค้าระดับกลาง

3. กลุ่มลูกค้าระดับล่าง

สำหรับกลุ่มลูกค้าระดับบน นั้น พฤติกรรมการบริโภค ของคนกลุ่มนี้ คือ นิยมซื้อสินค้าที่มีคุณภาพสูง ราคาแพง และอายุการใช้งานยาวนาน ด้วยเหตุนี้ร้านค้าที่สามารถดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้ให้เข้ามาใช้บริการจะต้องเป็นร้านที่มีระดับ คำว่ามีระดับนี้สามารถพิจารณาได้จากลักษณะการอกแบบตกแต่งร้าน ร้านที่มีการออกแบบตกแต่งที่ดีช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าสินค้าหรือบริการจากร้านนั้นมีคุณภาพดีด้วย เมื่อลูกค้าเกิดความมั่นใจในสถานที่ก็จะส่งผลให้เกิดความมั่นใจในตัวสินค้าด้วย ฉะนั้น ถ้าลูกค้าของเราเป็นกลุ่มลูกค้าระดับบน เราจะต้องออกแบบตกแต่งร้านของเราให้ดูดีมีระดับ เพราะจะช่วยดึงดูดให้ลูกค้ากลุ่มนี้เข้ามาใช้บริการจากมากขึ้น

ดังนั้น สำหรับร้านที่ให้บริการลูกค้าระดับบน จะต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบ ตกแต่งร้านมากเป็นพิเศษ หลักการง่ายๆ คือ เราจะต้องออกแบบตกแต่งร้านให้ดูดีที่สุด ให้ดูสวยที่สุด และต้องเลือกใช้วัสดุในการตกแต่งที่มีคุณภาพที่สุด การได้มาซึ่งการออกแบบตกแต่งที่ดีจะต้องอาศัยแนวคิดในการออกแบบ (Concept of Design) ที่ดีด้วย นอกจากนี้ระหว่างการดำเนินกิจการ ปรับเปลี่ยนรูปโฉมของร้านก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งเราอาจจะมีการจัด โปรโมชั่นพิเศษในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลคริสต์มาส เทศกาลปีใหม่ เทศกาลวันแห่งความรัก เป็นต้น


ซึ่งในช่วงเทศกาลสำคัญนี้เราจะต้องมีการปรับเปลี่ยนวันแห่งความรัก เป็นต้น ซึ่งในช่วงเทศกาลสำคัญนี้เราจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปโฉมของร้านให้เข้ากับบรรยากาศของเทศกาลที่กำลังจะมาถึง ซึ่งการปรับเปลี่ยนจะเปลี่ยนจะช่วยให้ลูกค้าไม่เบื่อ และช่วยให้เขาสนใจสินค้าและบริการจากเราไม่เปลี่ยน ฉะนั้นสำหรับร้านค้ามีระดับ เราควรมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงร้านให้ดูดีอยู่เสมอ ไม่ใช่รอเวลา 3 ปี หรือ 5 ปี ผ่านไปแล้วค่อยมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ไม่เช่านั้นลูกค้าก็จะเปลี่ยนไปใช้บริการจากร้านใหม่ที่มีความน่าสนใจมากกว่า คือ ออกแบบตกแต่งร้านให้ดูสวยงามระดับหนึ่ง เลือกใช้วัสดุในการตกแต่งที่มีคุณภาพ อายุ การใช้งานนาน สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา คือ การกำหนดงบประมาณลงทุน ในส่วนการออกแบบตกแต่ง ให้เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด



หลักการ ออกแบบแต่งสถานความงาม 


ภาพลักษณ์ของ ร้านเสริมความงาม หรือ ศูนย์ความงาม คือ ความทันสมัย และความสวยงาม ฉะนั้นการออกแบบตกแต่ง ร้านเสริมความงาม จะต้องนำเสนอความทันสมัย กับความสวยงาม เพื่อที่ร้านของคุณจะได้มีภาพลักษณ์ที่ดี สู่สายตาของคนภายนอก จากอาคารธรรมดาๆ คุณจะต้องออกแบบตกแต่งให้ดูเก๋ไก๋ เปลี่ยนโฉมหน้าไปเลย จากอาคารธรรมดาๆ กลายเป็น ร้านเสริมความงาม ที่มีความทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ากลุ่มลูกค้าของคุณ เป็นพวกคนมีระดับ ร้านของคุณจะต้องมีความหรูหรามากขึ้นตามไปด้วย นอกจากความทันสมัยและความสวยงามแล้ว สิ่งที่ ร้านเสริมความงาม ต้องมี คือ ความสะอาด

ดังนั้นวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งร้าน ควรเป็นวัสดุที่มีคุณภาพดีที่สุด มีอายุการใช้งานยาวนาน และต้องทำความสะอาดง่าย สีที่ใช้ทาภายในร้าน ควรเป็นสีโทนอ่อนหรือโทนสีเย็น เพราะจะให้ความรู้สึกว่าร้านของคุณดูสะอาด น่าเข้าไปใช้บริการ ถ้าเป็น ร้านเสริมความงาม สำหรับคุณผู้หญิง การใช้สีชมพูอ่อน สีส้มอ่อน สีเขียวอ่อน จะช่วยดึงดูดความสนใจจากผู้หญิงมากขึ้น พื้นร้านควรมีการปูพรมเพื่อความหรูหรามีระดับการใช้โลหะมาเป็นวัสดุตกแต่งร้าน ควรเลือกใช้วัสดุที่ทำจากทองเหลือง เพราะให้ความรู้สึกหรูหรา สมฐานะของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ




เรื่องของการใช้สี ถือเป็นสิ่งสำคัญในการตกแต่ง ร้านเสริมความงาม ศูนย์ความงาม มีข้อควรระวังเกี่ยวกับการเลือกใช้สี คือ ควรใช้สีโทนอ่อน หรือ สีโทนเย็น เพราะดูแลง่าย แต่ถ้าคุณต้องการใช้สีตรงข้าม หรือสีโทนร้อนหรือสีโทนเข้มเข้ามาตัด ควรมีสัดส่วนไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคุณอาจตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ ผ้าบุนวม หรือผ้าม่วนที่มีสีโทนเข้ม หรือสีโทนร้อน เข้าไปก็ได้ การใช้สีโทนเข้ม หรือสีโทนร้อน เข้ามาเน้น จะช่วยให้ร้านของคุณมีสีสันมากขึ้น เพราะการที่ร้านมีแต่สีโทนอ่อนที่ดูเรียบๆ ก็อาจทำให้คุณหรือลูกค้าเบื่อได้

ฉะนั้นการใช้สีโทนเข้ม หรือสีโทนร้อน เข้ามาเน้นบางจุดของร้าน ก็จะช่วยให้ร้านของคุณมีลูกเล่นมากขึ้น แต่อย่าลืมว่าไม่ควรใช้สีโทนเข้ม หรือสีโทนร้อนเกินสัดส่วน ตามที่ได้กล่าวมา การรู้จักเลือกใช้สีตกแต่งภายในร้าน จะช่วยให้ลูกค้าไม่รู้สึกปวดหัว มึนงง และ ผ่อนคลาย ในปัจจุบันร้านเสริมความงาม นิยมใช้สีอ่อนทาตกแต่งร้าน

นอกจากเรื่องของสีแล้ว คุณควรหาเครื่องประดับมาตกแต่งร้าน ของคุณให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น เช่น กระจก กรอบกระจก รูปภาพ แจกันดอกไม้ เครื่องประดับเหล่านี้จะช่วยให้ร้านของคุ ณดูสวยงามมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การติดกระจกที่ผนังร้านทั้งสองด้าน จะช่วยทำให้ร้านดูกว้างขึ้น อีกทั้งทำให้ลูกค้าสามารถเห็นแบบผมของลูกค้าคนอื่นในร้าน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าเกิดไอเดียวใหม่ๆ เกี่ยวกับแบบผมของตน ในการมาใช้บริการคราวหน้าด้วย

ส่วนเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ คุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าที่จำหน่ายอุปกรณ์เสริมสวยที่มีอยู่ทั่วไป แต่สิ่งสำคัญก็คือ ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากับสไตล์ร้านของคุณด้วย

นอกจากนี้ที่สำคัญอีกอย่าง คือ เรื่องของไฟ แสงไฟที่เหมาะสมกับบรรยากาศร้านเสริมความงาม คือ แสงไฟสีเหลือง และแสงไฟสีขาว “ภาพลักษณ์ของร้านเสริมความงาม คือ ความทันสมัยและความสวยงาม ฉะนั้นการออกแบบตกแต่งร้านเสริมความงามจะต้องนำเสนอความทันสมัยควบคู่ไปกับความสวยงาม”



คำแนะนำส่งท้าย

สำหรับคนที่คิดจะเปิดร้านอะไรขึ้นมาสักร้าน คุณควรเลือกทำเลเปิดร้านให้ดี ถ้าต้องเช่าพื้นที่เพื่อเปิดร้าน ถ้าเลือกได้ก็ควรเลือกทำเลที่อยู่ชั้นหนึ่ง ติดถนนเพราะโอกาสที่คนจะเห็นร้านของคุณมีมากกว่า ก่อนการออกแบบตกแต่งร้านคุณ ก็ต้องรู้ว่าร้านของคุณขายอะไร และกลุ่มลูกค้าของคุณเป็นใคร ทำเล ประเภท ธุรกิจ และกลุ่มลูกค้าจะช่วยในการสร้างแนวคิด ในการออกแบบตกแต่งร้านให้คุณ


:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

ติดตามไอเดียธุรกิจความงามผ่าน  Facebook
https://www.facebook.com/DrCosmeticsBlog

สอบถาม เปิดคลินิกความงาม คลิ๊กๆ  LINE@

ประวัติและผลงานที่ผ่านมา คลิ๊กๆ  2547-2559
โทร : 089-944-1346 ( 9:00-21:00 ทุกวัน )

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

DERMINET blog

วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

หมอสิว ออนไลน์


ตรวจสภาพผิว ออนไลน์ ?


คงสงสัยใช่ไหมค่ะว่า ภาพถ่าย สามารถบอกการ วินิจฉัยโรค (ตรวจสภาพผิว ออนไลน์) ได้อย่างไร ? โดยทั่วไปแล้ว หลักการตรวจ วินิจฉัยโรค ผิวหนัง หรือ ตรวจสภาพผิว ผ่านระบบต่างๆ เช่น website, webcam, mms ฯลฯ ก็เหมือนกับการตรวจ วินิจฉัย โรค โดยทั่วไป ประกอบด้วย

1. การซักถามประวัติ

2. การตรวจร่างกาย หรือ การตรวจดูรอยโรคด้วยสายตา

3. การตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือ การตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ

โรคผิวหนัง บางโรค อาจมีผื่นที่มีลักษณะเฉพาะ หรือ มีตำแหน่งเฉพาะซึ่งช่วยให้ แพทย์ผิวหนัง สามารถ วินิจฉัยโรค ได้โดยง่าย
การตรวจดูรอยโรค ด้วยสายตา เป็นขั้นตอนหนึ่งในการ วินิจฉัยโรค เมื่อเราไปพบ แพทย์ ที่ คลินิก หรือ โรงพยาบาล แพทย์ จะใช้ โคมไฟ แว่นขยาย ตรวจดูรอยโรค เพื่อขยายให้เห็น รอยโรคชัดเจน ดังนั้นภาพถ่าย ที่ คมชัดของรอยโรค ที่ปรากฏบน ผิว และข้อมูลเกี่ยวกับอาการของโรค จะสามารถบอกการวินิจฉัยโรค ในเบื้องต้นได้ค่ะ
สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวพรรณ หรือ โรค ผิวหนัง หากยังไม่สามารถเข้าตรวจ รักษา กับ แพทย์ ที่ คลินิก หรือ โรงพยาบาล ได้สามารถบอกเล่าอาการ และส่ง ภาพถ่าย บริเวณที่มี ปัญหาผิว เข้ามาปรึกษาเราได้ นะค่ะ



ปรึกษาสอบถาม ปัญหาผิว กับ "คุณหมออรไลน์"

 ปรึกษาสอบถามปัญหาผิว คลิ๊กๆ